จะเล่นเพลงของบิกแอส เราต้องตั้งสายให้เท่ากับของเขาก่อน เนื่องจากว่าตามปกติเสียงของสายจะเป็นแบบนี้
1=E
2=B
3=G
4=D
5=A
6=E
แต่บิกแอสนั้นมันไม่ได้ตั้งสายแบบนั้น ซึ่งมันใช้สายเบอร์ใหญ่ แล้วลดเสียงของสายทุก ๆ สายลงไป
1 เสียงครึ่ง ยกเว้นสาย 6 ซึ่งลดลงไป 2 เสียงครึ่งโดยมันจะออกมาในรูปนี้
1=C#
2=G#
3=E
4=B
5=F#
6=B
ดังจะเห็นได้ว่า การตั้งสายของวงบิกแอสทั้งกีตาร์ไฟฟ้า/โปร่ง แม้กระทั่งเบส ก็มีความสำคัญมาก
ฉะนั้น ถ้าแกะจากในเทปจะได้คีย์ F# หรือคอร์ดแรกเป็น F# ( เป็นคีย์นี้ 100%) ซึ่งที่จริงแล้ว
ถ้าเราตั้งสายแบบบิกแอสเราก็จะได้ คีย์ A เนื่องจากที่บอกไว้แล้วข้างต้นว่า มันตั้งสายลดลงมา 1 เสียงครึ่ง ซึ่งบางคนสงสัยว่านับอย่างไร ก็ดูนี้เลยครับ
การนับตัวโนตจะเป็นแบบนั้ครับ C C# D D# E F F# G G# A A# B C
ซึ่งถ้านับตัวนโนตหรือนับคีย์ของเพลงนี้จากการตั้งสายก็จะได้แบบนี้ F# = 1 [ G]
2 [ G#]
3 [ A ]
ซึ่งจะบอกว่าการนับตัวโนตอย่างเช่น F# มา G หรือ G มา G# ของเราเรียกว่า นับไปอีกครึ่งเสียง
เสียงถ้านับจะ เป็น F#มา G ได้ครึ่งเสียง , G มา G# ได้ครึ่งเสียง , G# มา A ได้ครึ่งเสียง
ซึ่งรวมเป็น 1 เสียงครึ่ง พอดี
ดังนั้นเพลงนี้ต้องเล่น คีย์ A หรือคอร์ดแรกเป็น A แต่ต้องลดเสียงโดยการหมุนลง ให้เสียงต่ำลง 1 เสียงครึ่ง ก่อน
ส่วนเรื่อง คนที่แกะเป็น G นั้น เพราะว่าโดยปกติการลดเสียงของสาย ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นวง
ไหน ๆ ก็มักจะลดลงแค่ ครึ่งเสียง ซึ่งจึงทำให้คนชินกับการแกะแบบลดแค่ ครึ่งเสียง เพราะปัจจุบันมีการลดเสียงลง ครึ่งเสียง มากเหลือเกิน เช่น CLash Silly Fools Potato และอีกหลายวงมากมายจนทำให้คนชินกับการตั้งสาย ครึ่งเสียงไป เมื่อเจอเพลงที่แกะแล้วได้คีย์ที่เป็น # (ชาร์ป) หรือเฟรต( b ) ยกตัวอย่างเช่น Potato เพลงคนกลาง ซึ่งเล่นด้วย A แต่เสียงที่ได้เป็น Ab หรือ G#
ซึ่งเป็นการลดคีย์ลงมาครึ่งเสียงนั้นเอง
คงจะเข้าใจกันแล้วนะครับ มีอะไรในเพลงไหนอีกผมจะมาบอกอีกนะครับ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับคอร์ดนี้