สายลมพักร่องรวงข้าวสีทองลู่ลมเอนกอง
ห้วย หนอง คลอง บึง อาหารเพียงพอ
ชาวนายกยอหา กุ้ง ปู ปลา
บ้างแบกคราดไถ่ จูงควายออกสู่ไร่นา
หนุ่มสาวกำเคียวเกี่ยวแขนกันมา
ส่งยิ้ม สบตา ออดอ้อนคำหวาน
ภูเขาเป็นฉาก ท้องไร่ท้องนา นั้นเป็นเวที
หรีดริ้งเรไรเป็นเหมือนดนตรี
คนบ้านนอกมีซึ่งจิตวิญญาณ
บทเพลงลูกทุ่งเกิดมาก็ร้องเป็นกัน
ไม่ผิดเพี้ยนลายบทเพลงไทยนั้น
เสียงร้องแข่งขันคนกับนกกา
เสียงขลุ่ยวาบหวิว พลิวตามลมรูปพรมรวงข้าว
นั้นเป็นเสียงหนุ่มรอสาวเจ้า เป่าคลอคอยเฝ้าชะแง้แลหา
กระจับจอกแหน แลลอยคุ้งเป็นยุ้งฉางปลา
ธรรมชาติบ้านดงพนา เหมือนดังว่าจิตรกรวาดไว้
ได้ยินเสียงเพลง เจื้อยแจ้วบรรเลง มนต์เพลงบ้านนา
สุดแสนตราตึง ซาบซึ้งอุรา เสียงใครร้องมา ช่างหวานจับใจ
นี่แหละสวรรคืบ้านนา พาให้หลงไหล
ชุ่มฉ่ำสดชื่น เริงรื่นหัวใจ ไม่ขอจากไกลบ้านนาเราเอ๋ย